สัตว์ในเทพนิยาย


1. Banshee (แบนชี)

ตามตำนานชาวไอร์แลนด์ (Irish) แบนชีเป็นวิญญาณผู้หญิงที่จะร้องเสียงโหยหวนเมื่อได้ สัมผัสกลิ่นแห่งความตาย เธอจะติดตามบางครอบครัวเป็นพิเศษ และร้องเสียงโหยหวนเมื่อมีสมาชิกในครอบครัวใกล้จะตาย แบนชีมีผมพลิ้วไหวและดวงตาสีแดงจากการร่ำไห้ บางตำนานบอกว่าเธอมีช่องจมูกรูเดียว





2. Bunyips (บันยิป)

กล่าวกันว่าบันยิปมีบ้านเกิดอยู่ที่ทางน้ำในออสเตรเลีย มันมักจะถูกบอกเล่าว่ามีหางเหมือนจระเข้ และส่วนอื่นเหมือนกับจิ้งจอก นกอีมู หรือคน พวกมันสามารถมีแผงคอหรือศีรษะที่เต็มไปด้วยวัชพืช และเท้าของมันหันกลับด้าน สิ่งหนึ่งที่ทุกตำนานเชื่อเหมือนกัน คือ เสียงร้องไห้ของบันยิปจะดังสนั่นหวั่นไหวอย่างน่ากลั ว เมื่อไรที่คุณได้ยินเสียงดังจากหนองน้ำ...นั่นแหละบั นยิปล่ะ อ้อ! ระวังอย่าเข้าใกล้มันเชียว เพราะบันยิปกิน (จริง ๆ คือ กลืน) คน และชอบกินผู้หญิงกับเด็กเป็นพิเศษด้วย





3. Chimera (คิเมร่า)

ตัวนี้น่าจะคุ้นกันดี คิเมร่าเป็นสัตว์ที่มีหัวเป็นสิงโต ตัวเป็นแพะ และหางเป็นงู ลมหายใจของมันก่อให้เกิดเพลิงร้อนแรงถึงตายได้เชียวนะ






4. Cyclopes (ไซคลอป)

ไซคลอปคือยักษ์ที่มีตาเดียวอยู่กลางใบหน้า กล่าวกันว่าไซคลอปตัว (?) แรกเป็นบุตรของไกอา พระแม่ธรณี กับยูเรนัส สวรรค์ชั้นฟ้า (Uranus, the Heavenly Sky)





5. Djinn (จิน)

อาจไม่คุ้นหูกัน แต่ถ้าบอกว่าเขียนได้อีกหลายคำ ทั้ง Genie, Jinni, Djinni และDjin จริง ๆ แล้วตัวนี้คือ ยักษ์จินนี่ ที่เราคุ้นตาในอะลาดินนั่นแหละ มันมาจากตำนานของชาวอาหรับและทางตะวันออก จินเป็นวิญญาณที่มีความสามารถด้านเวทมนตร์สูง พวกมันอาจจะใจดีหรือมุ่งร้ายต่อมนุษย์ก็ได้ ผู้วิเศษสามารถร่ายมนตร์เพื่อบังคับให้วิญญาณเหล่านี ้ทำตามคำสั่งได้ จินมักจะถูกผูกมัดกับแหวนหรือเครื่องประดับ (หัวสูงนิ..) แต่ก็เป็นไปได้ที่จะอยู่ในสิ่งอื่น เช่น ตะเกียงอะลาดิน เป็นต้น





6. Dragons (ดรากอน - มังกร)


ตัวนี้น่าจะรู้จักกันดียิ่งกว่าห้าตัวแรก คำอ่าน ดรากอน นั้นหมายถึงสำเนียงคนไทย (ถ้าให้อ่านตามจริง จะประมาณ ดรา-เกิน หรือ แดร-เกิน) มังกรพบเจอได้บ่อย ๆ ในเทพนิยายและตำนานต่าง ๆ สำหรับตำนานของชาวบาบิลอน (Babylonian Myth) ‘Tiamat (เทียแมท)เป็นมังกรผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ต่อสู้กับพระเจ้า Marduk และในนิทานของอังกฤษ นักบุญจอร์จได้ฆ่ามังกรเพื่อปกป้องสาวพรหมจรรย์





7. Golem (โกเลม)


ว่ากันว่าพระชาวยิวในเมืองปราก (Prague) เมืองหลวงของเชโกสโลวะเกีย เป็นคนสร้างโกเลมขึ้น ในตอนนั้นชาวยิวที่อาศัยอยู่ในสลัมของปรากกำลังถูกข่ มเหง โกเลมจึงเกิดขึ้นเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้อง (Protection) โกเลมถูกสร้างขึ้นจากดินเหนียว และจะมีชีวิตเมื่อพระเขียนคำว่า shem (“ชื่อ”) บนกระดาษหนังแล้วใส่เข้าไปในปากของมัน นอกจากนั้นพระยังเขียนคำว่า emet (“สัจธรรม” Truth) บนหน้าผากของมันโกเลมมีร่างกายที่แข็งแกร่งและคอยปกป้องชาวยิวตลอดมา อย่างไรก็ตาม ผู้คนในเมืองเริ่มเกรงกลัวสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้น พระจึงได้ทำลายโกเลมด้วยการเปลี่ยนคำว่า emet เป็น met ซึ่งหมายถึง ความตาย





8. Harpies (ฮาร์ปี)

ฮาร์ปีมักถูกวาดภาพเป็นสัตว์ที่มีศีรษะและหน้าอกเหมื อนผู้หญิง แต่ร่างกายเป็นนก (คล้าย ๆ กินรีที่เรารู้จักกันนั่นแหละ) มันเป็นที่รู้จักในเรื่องกลิ่นอันเหม็นอย่างร้ายกาจ ซึ่งจะทำลายทุกอย่างที่เข้าใกล้





9. Hell Hounds (เฮล ฮาวนด์)

แปลตรงตัวคือ สุนัขล่าเนื้อแห่งนรกนั่นเองครับ มีหลายตำนานที่พูดถึงสุนัขน่ากลัวซึ่งอาศัยอยู่ใต้โล กพวกนี้ ตำนานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ “Cerberus (เซอร์บิรุส)” (แต่ผมเคยอ่านเจอเค้าเรียกกันว่า เคลเบรอส อ่ะคับ-นาย Touru) สุนัขสามหัว มีหางเป็นงู ผู้เฝ้าประตูนรก (Way to Hades - Hades แปลว่านรกหรือพญายมครับ) เซอร์บิรุสนั้นดุร่ายป่าเถื่อน แต่ก็ถูกเฮอร์คิวลิสปราบลงได้ หรือถูกกล่อมให้หลับด้วยเสียงเพลงเมื่อ Orpheus เดินทางมาที่ใต้โลกอีกตัวหนึ่งนอกจากเซอร์บิรุส ก็คือ “Garm (การ์ม)เป็นสุนัขแห่งนรกในตำนานของชาวนอร์ส






10. Hippocampus (ฮิปโปแคมปัส)

อาจจะไม่คุ้นชื่อสำหรับตัวนี้ ฮิปโปแคมปัสเป็นสัตว์ครึ่งม้าครึ่งปลา ชื่อของมันแปลว่า “Sea Horse” (จะแปลว่า ม้าทะเล หรือ ม้าน้ำ ดีล่ะ...) มันมีหัวและขาหน้าเหมือนกับม้า แต่เท้าเป็นพังผืดและแผงคอมีครีบ ลำตัวของมันยาวเหมือนม้า ส่วนท่อนล่างเป็นหางปลา






11. Hippogriff (ฮิปโปกริฟ)

ชื่อเต็ม ๆ คือ Hippogriffin (ฮิปโปกริฟฟิน) บางคนอาจรู้จักเจ้าตัวนี้จากแฮร์รี่ พอตเตอร์มาแล้วนะครับ ฮิปโปกริฟสืบเชื้อสายมาจากกริฟฟอน (Gryphon สัตว์ครึ่งนกครึ่งสิงโต) กับม้า มันมีลำตัวเหมือนม้า แต่ขาหน้า เล็บ ปีก และจะงอยปากเป็นเหมือนกริฟฟอน ฮิปโปกริฟมักถูกยกไปเกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์ กริฟฟอนและม้าในรถม้าของอพอลโล และเปกาซัส





 12. Incubi & Succubi (อินคิวบิ & ซัคคิวบิ)

บางตำนานเรียก Succubus (ซัคคิวบัส) กับ Incubus (อินคิวบัส) เจ้าวิญญาณร้ายสองตัวนี้จะเข้าฝันผู้คนเพื่อสำเร็จคว ามใคร่ให้มนุษย์อินคิวบิเป็นวิญญาณผู้ชายที่จะเข้าฝันผู้หญิง มันสามารถทำให้ผู้หญิงคลอดลูกที่ชั่วร้ายออกมาได้ หนึ่งในกลุ่มนั้นคือ เมอร์ลินซัคคิวบิเป็นวิญญาณผู้หญิงที่น่าสยดสยอง ซึ่งจะเข้าไปในฝันของผู้ชายและร่วมประเวณีกัน ดูเหมือนซัคคิวบิจะเกี่ยวข้องกับ Lilith (ลิลิธ) ภรรยาคนแรกของอดัม ซึ่งหลังจากเธอถูกขับไล่จาก Eden (อีเดน) เธอก็กลายเป็นมารดาแห่งภูติผีปีศาจ กล่าวกันว่าเธอมักจะไปหาผู้ชายกลางดึก เพื่อสืบเชื้อสายปีศาจให้มากขึ้น






13. Jersey Devil (เจอร์ซี เดวิล)

เจอร์ซีเดวิล (หรือ ปีศาจเจอร์ซี) มีหัวเหมือนกับม้าหรือแกะ มีปีกคล้ายกับค้างคาวแต่ใหญ่กว่า ส่วนลำตัวนั้นยาวและเหมือนกับงู ในปี 1909 มีพยานหลายคนได้ยินเสียงน่าขนลุกจากแม่น้ำ Delaware และเห็นสัตว์ประหลาดเรืองแสงบินอยู่บนท้องฟ้า นอกจากนั้นยังพบรอยเท้าแปลกประหลาดบนหลังคาบ้านหรือบ ริเวณใกล้กับเล้าไก่อีกด้วย
ตำนานเกี่ยวกับเจอร์ซีเดวิลมีหลายตำนาน หนึ่งในนั้นกล่าวว่าเจอร์ซีเดวิลเกิดในปี 1850 จากคำสาปของยิปซีในตัวหญิงสาวคนหนึ่ง และเจ้าปีศาจได้หนีเข้าไปในป่าทันทีที่เกิด ซึ่งยังคงอาศัยอยู่ในป่าจนบัดนี้






14. Lamia (ลาเมีย)

ลาเมียเคยเป็นผู้หญิงธรรมดามาก่อน และได้พบรักกับเทพซูสอีกด้วย เธอถูกสาปให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดด้วยฝีมือของฮีรา ภรรยาของซูสผู้อิจฉาริษยา ลาเมียในร่างสัตว์ประหลาดนั้นมีศีรษะเป็นผู้หญิง ร่างกายเป็นงู มีกีบเท้าแยกออก และหางเป็นสิงโต นอกจากฮีราจะสาปลาเมียแล้ว ยังฆ่าลูก ๆ ของลาเมียด้วย ลาเมียจึงออกฆ่าเด็กเป็นการล้างแค้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น